ผลสัมฤทธิ์ของแผนงานฝึกอบรม

จิตแพทย์ที่จบการฝึกอบรมเป็นแพทย์เฉพาะทางอนุสาขาจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ต้องมีคุณสมบัติและความรู้ความสามารถขั้นต่ำตามสมรรถนะหลักทั้ง 6 ด้านดังนี้

5.1 การบริบาลผู้ป่วย (Patient Care)

ก.         มีทักษะในการสัมภาษณ์ การตรวจร่างกาย การตรวจสภาพจิต การใช้แบบประเมินที่สำคัญ ในการคัดกรอง ประเมิน วินิจฉัยโรค บำบัดรักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพแก่ผู้ป่วยผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยสูงอายุที่มีโรคทางกายหรือมีโรคร่วมทางจิตเวชได้มาตรฐานตามหลักวิชาการ และหลักฐานเชิงประจักษ์

ข.         มีความรู้และทักษะในการป้องกันโรคและสร้างเสริมสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ

ค.         มีทักษะในการบริบาลแบบองค์รวม มีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง โดยคำนึงถึงการใช้ยาอย่างสมเหตุผล มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย

 

5.2 ความรู้  ความเชี่ยวชาญ และความสามารถในการนำไปใช้แก้ปัญหาของผู้ป่วยและสังคมรอบด้าน (Medical Knowledge and Skills)

1        มีความรู้พื้นฐานด้านสุขภาพจิต จิตวิทยา วิทยาศาสตร์การแพทย์และสังคมศาสตร์ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานด้านจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ

2        มีความรู้ทางจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ตามหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เป็นปัจจุบันและบริบทต่าง ๆ

3        มีทักษะการทำจิตเวชปฏิบัติอย่างมีมาตรฐาน และเหมาะสมกับบริบทของการปฏิบัติงาน

4       สามารถบันทึกรายงานผู้ป่วยได้อย่างสมบูรณ์ และสม่ำเสมอ

 

5.3 ทักษะระหว่างบุคคลและการสื่อสาร (Interpersonal and Communication Skills)

ก.    นำเสนอข้อมูลผู้ป่วย และอภิปรายปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ

ข.    ถ่ายทอดความรู้และทักษะ เป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำด้านจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุให้แก่แพทย์และ/หรือนักศึกษาแพทย์และ/หรือบุคลากรทางการแพทย์

ค.    สื่อสารให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติ ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ  โดยมีเมตตา เคารพการตัดสินใจและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

ง.     มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี  ทำงานกับผู้ร่วมงานทุกระดับอย่างมีประสิทธิภาพ

 

5.4 การเรียนรู้และพัฒนาจากฐานการปฏิบัติ (practice-based learning andimprovement)

ก.         วิพากษ์บทความ และดำเนินการวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขได้

ข.         มีความรู้ในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณทางการแพทย์ และการแพทย์เชิงประจักษ์

ค.         เรียนรู้พัฒนาทักษะและเสริมสร้างประสบการณ์ทางวิชาชีพ จากการฝึกปฏิบัติด้านจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุได้ด้วยตนเอง

 

5.5 ความสามารถในการทำงานตามหลักวิชาชีพนิยม  (Professionalism)

ก.         มีคุณธรรมจริยธรรมและเจตคติอันดีต่อผู้ป่วย ญาติ ผู้ร่วมงาน เพื่อนร่วมวิชาชีพ และชุมชน

ข.         มีความสามารถในการสำรวจจิตใจ พัฒนาตัวเอง และสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องได้เหมาะสม

ค.         มีความสนใจใฝ่รู้ และสามารถพัฒนาไปสู่ความเป็นผู้เรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต (continuous professional development) เพื่อธำรงและพัฒนาความสามารถด้าน                          ความรู้ ทักษะ เจตคติ และ พฤติกรรมในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมอนุสาขาจิตเวชศาสตร์ผู้สูงอายุที่เป็นมาตรฐาน และตอบสนองต่อความต้องการของ
            ผู้ป่วยและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป

ง.          มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย

จ.          คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม

5.6 การทำเวชปฏิบัติให้สอดคล้องกับระบบสุขภาพ (System-based practice)

มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสุขภาพของประเทศ ระบบพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ป่วย รวมทั้งการใช้ทรัพยากรสุขภาพอย่างเหมาะสม โดยมีการการทำเวชปฏิบัติที่มีหลักการดังนี้

ก.         สอดคล้องกับระบบสุขภาพ ระบบพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ป่วย ระบบยุติธรรม บริบททางสังคม และวัฒนธรรมสำหรับผู้สูงอายุของประเทศไทย

ข.         คำนึงถึงความปลอดภัย และสิทธิผู้ป่วย

ค.         ตระหนักในการใช้ทรัพยากรสุขภาพอย่างคุ้มค่า (cost consciousness medicine) และสามารถปรับเปลี่ยนการดูแลรักษาทางจิตเวชในผู้สูงอายุให้เข้ากับ

             บริบทของการบริการสาธารณสุขได้ตามมาตรฐานวิชาชีพ

Visitors: 91,312